เที่ยว จอร์เจีย

เที่ยว จอร์เจีย แทบไม่น่าเชื่อเลย เราจะคิดถึงจอร์เจียประเทศเล็ก ๆ ที่น่ารักและเดินทางไกลที่ปลายสุดของเอเชีย เป็นการผสมผสานบรรยากาศแบบยุโรปและโซเวียตได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งป่าเขา สายน้ำ และที่สำคัญคนไทยยังไปเที่ยวได้ฟรีอีกด้วย ค่าครองชีพถูกเหมือนอยู่บ้านตัวเอง และที่สำคัญฉันสามารถเดินทางได้โดยไม่มีข้อจำกัด สำหรับใครที่มีหลักฐานและใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แหม พูดขนาดนี้แล้ว ตอนนี้มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจอร์เจียกันเถอะ! ปัจจุบันประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมมากที่สุดคือประเทศจอร์เจีย ซึ่งอยู่ทางแยกระหว่างเอเชียและยุโรป เป็นประเทศเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี มีบรรยากาศแบบยุโรปในด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างเราก็ไปได้ คุณสามารถเดินทางไปจอร์เจียได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้วีซ่า ใครที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ก็สามารถติดตามนักเดินทางที่มีงบเที่ยวไม่มากนัก แต่ถ้าจะไปเที่ยวยุโรปก็ต้องนึกถึงจอร์เจีย ประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาระดับโลกอย่างเทือกเขาคอเคซัสเป็นอันดับแรก ตั้งอยู่ที่ทางแยกของยุโรปและเอเชีย ที่สำคัญคือคนไทยอย่างเราสามารถไปจอร์เจียได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า คุณสามารถอยู่ที่นี่ได้นานถึงหนึ่งปีและสามารถเดินทางได้เกือบทั่วประเทศ ให้ความรู้สึกแบบยุโรป ทำให้จอร์เจียเต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าสนใจด้วยวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้หลายคนยังคงยึดที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

เที่ยว จอร์เจีย ยอดฮิต

  • เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains)
    เริ่มต้นตะลุย จอร์เจีย ที่เที่ยว ที่หลายคนอาจจะคุ้นๆ ชื่อนั่นก็คือ เทือกเขาคอเคซัส เทือกเขาสูงในยุโรป เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ ทำหน้าที่แบ่งพรมแดนระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ทำให้เกิดกลุ่มประเทศต่างๆ ที่อยู่ทั้งสองทวีป ซึ่งบนเทือกเขาคอเคซัสในฝั่งประเทศจอร์เจีย ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อย่างเช่น ยอดเขาคาสเบก (Mt.Kazbek) หนึ่งในภูเขาบนเทือกเขาคอเคซัส ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวได้อย่างสุดลูกหูลูกตา แนะนำว่าถ้าใครไป ทัวร์จอร์เจีย ที่นี่แล้วเป็นคนเมารถง่าย อย่าลืมพกยาไปด้วยนะ เพราะต้องนั่งรถตู้ขึ้นเขาไปตาทางที่ค่อนข้างขรุขระเลยทีเดียว
  • โบสถ์เกอร์เกติ (Gergeti Trinity Church)
    ตะลุย จอร์เจีย ที่เที่ยว ถัดมาคือ โบสถ์เกอร์เกติ เป็นโบสถ์เก่าแก่ของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่ในเมืองคาสเบกิ บนหน้าผาริมแม่น้ำเชเครี (Chkheri) สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร ท่ามกลางวิวของเทือกเขาคอเคซัสเป็นฉากหลัง ซึ่งทัศนียภาพของโบสถ์นี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจอร์เจียไปแล้ว
  • อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย (Russia–Georgia Friendship Monument)
    อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย เป็นอนุสรณ์หินคอนกรีตทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1983 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk ด้านในอนุสรณ์มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นภาพขนาดใหญ่ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของชาวรัสเซียและจอร์เจีย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวยอดนิยม เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดที่สามารถมองเห็นวิวเขาสวยๆ ที่รวมถึงหุบเขาปีศาจ (Devil’s Valley) ได้อีกด้วย
  • เมืองหลวงทบิลิซี (Tbilisi)
    เมืองหลวงที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์แบบเมืองเก่าไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งสีสันต่างๆ อาคารบ้านเรือนที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมของแต่ละยุค ที่สำคัญคือรายล้อมด้วยภูเขาสูงใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นภาพที่หาได้ยากในเมืองหลวงอื่นในยุโรปจริงๆ ครับ ที่ทบิลิซีมีเคเบิลคาร์จากสวนไรค์ (Rike Park) ให้ขึ้นไปชมวิวแบบพาโนรามาบนป้อมปราการ นาริกาลา (Narikala) ด้านบน ค่าโดยสารเพียง 1 ลารีจอร์เจียเท่านั้นครับที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ ทะเลสาบทบิลิซี (Tbilisi Sea) ทะเลสาบเทียมที่รายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ของป่าไม้ และเทือกเขา เป็นแหล่งปิคนิคยอดนิยมของคนที่นี่ครับ โดยเฉพาะหน้าร้อนผู้คนจะมาชุมนุมทำกิจกรรมกันที่นี่เยอะมาก
  • มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi)
    จอร์เจีย ที่เที่ยว อีกหนึ่งพิกัดสำคัญก็คือ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี หรือ มหาวิหารโฮลี่ทรินิตี้ ตั้งอยู่ในเมืองหลวงทบิลิซี เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์ทอดอกซ์จอร์เจีย ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่และได้รับการจัดอันดับเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในแถบอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ใครมาเที่ยวต้องไม่พลาด ไปชมความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารแห่งนี้กัน
  • เมืองถ้ำอุพลิสชิเค่ (Uplistsikhe)
    เปลี่ยนบรรยากาศ ทัวร์จอร์เจีย ไปชมเมืองถ้ำยุคโบราณที่มีมาตั้งแต่ยุคหินกันที่ เมืองถ้ำอุพลิสชิเค่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิกวาริ ตัวถ้ำเป็นการเจาะตีนเขาให้เป็นโพรงทะลุถึงกัน ภายนอกมีบันไดและมีถนนหินเป็นส่วนเชื่อมต่อแต่ละถ้ำ มีการสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนด้านบนสุดของถ้ำมีโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 หรือ 10 หลังจากคริสต์ศาสนาเผยแผ่เข้ามาในจอร์เจีย ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เราได้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองนี้อีกด้วย
  • พิพิธภัณฑ์สตาลิน (Joseph Stalin Museum)
    มาศึกษาประวัติศาสตร์กันที่ พิพิธภัณฑ์สตาลิน สถานที่รวบรวมเรื่องราวของ โจเซฟ สตาลิน ผู้นำลัทธิคอมมิวนิสต์ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงชีวประวัติของสตาลินตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิต ข้อมูลต่างๆ รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวกับสตาลิน โดยแบ่งโซนจัดแสดงเป็นห้องๆ อีกทั้งยังมีการสร้างอาคารต่างๆ ให้คล้ายกับสถานที่เกิดของสตาลินอีกด้วย
  • โบสถ์เกอลาติ (Gelati Monastery)
    ที่เที่ยวจอร์เจีย ที่ถัดมาคือ โบสถ์เกอลาติ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจอร์เจียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1106 ทางตะวันตกของประเทศจอร์เจีย นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคทองของเศรษฐกิจและการเมือง ในจอร์เจียช่วงยุคกลางระหว่างศตวรรษที่ 11 และ 13 ตัวโบสถ์โดดเด่นด้วยด้านหน้าของตัวอาคารที่ใช้อิฐบล็อกขนาดใหญ่ ช่องประตูและหน้าต่างโค้งได้สัดส่วนสวยงาม โบสถ์เกอลาติ เป็นหนึ่งในโบสถ์ยุคออร์โธด็อกซ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์และการศึกษา อีกทั้งยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในจอร์เจียโบราณ ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูและนักบุญต่างๆ ของศาสนาคริสต์
  • ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress)
    ป้อมนาริกาลา ป้อมปราการโบราณ ตั้งอยู่เหนือเขตเมืองเก่าของทบิลิซี สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 และในสมัยต่อๆ มาก็ได้มีการขยายและก่อสร้างเพิ่มเติม เป็นป้อมปราการสำคัญสำหรับการปกป้องเมืองในศึกสงคราม ในปัจจุบันก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครอยากมาชมวิวเมืองทบิลิซีจากมุมสูงก็สามารถนั่งกระเช้าขึ้นมายังป้อมปราการแห่งนี้ได้
  • สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)
    ปิดท้าย จอร์เจีย ที่เที่ยว ที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ สะพานแห่งสันติภาพ เป็นสะพานคนเดินรูปโค้ง ก่อสร้างด้วยเหล็กและแก้ว ประดับไฟ LED จำนวนมากเหนือแม่น้ำคูรา อยู่ในตัวเมืองทบิลิซี เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ตัวสะพานทอดยาว 150 เมตร เป็นสะพานเชื่อมต่อเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่เข้าด้วยกัน ในเวลากลางคืนสะพานจะถูกส่องสว่างด้วยไฟ LED สีขาวนับพันบริเวณหลังคา เป็นภาพที่สวยงามมากๆ เที่ยว จอร์เจีย

บทความที่เกี่ยวข้อง